ประวัติความเป็นมา
ในครั้งพุทธกาล การศึกษาของภิกษุสงฆ์ที่สำคัญเป็นไปใน ๒ ลักษณะ คือ คันถธุระ ๑ วิปัสสนาธุระ ๑
เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วบรรดาพระสาวก โดยการนำของพระมหากัสสปะเถระได้รวมพระธรรมวินัยไว้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งเรียกว่า พระไตรปิฎก ซึ่งเป็นการใช้วิธีแบบการทรงจำต่อๆกันมา เรียกว่า มุขปาฐะ
หลังจากนั้นได้มีการสังคายนา ซึ่งได้มีการบันทึกลงในใบลานด้วยภาษาบาลีหรือภาษามาคธีในการสังคายนา ครั้งที่ ๕ เพราะที่ประชุมต่างพิจารณาเห็นว่าต่อไปในภายภาคหน้าว่าจะไม่มีใครสามารถจำได้หมด จึงมีการเขียนรวมเล่มเป็นหนังสือไว้
การเรียนวิชาภาษาบาลีนี้จะเป็นพระสงฆ์ฝ่ายเถรวาท เพื่อที่จะไม่ให้ภาษาบาลีหายไป เพื่อรักษาพระธรรมวินัยและพระพุทธพจน์ไว้
พัฒนาการการศึกษาพระปริยัติธรรม
ในหลักการศึกษาของพระพุทธศาสนาจะต้องใช้หลักปัญญา ๓ ประการ คือ
๑.จินตามยปัญญา ความรู้เกิดจากการคิด
๒.สุตตามยปัญญา ความรู้เกิดจากการฟัง
๓.ภาวนามยปัญญา ความรู้เกิดจากการอบรมจิตมรรคตามวิธี
การศึกษาภาษาบาลีของคณะสงฆ์ไทยการศึกษาวิชาภาษาบาลีช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพที่สูงขึ้น
ด้วยเหตุนี้พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ได้ให้ความสำคัญกับภาษาบาลีเป็นอย่างมากและทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกในการทำนุบำรุงพระศาสนาอีกด้วย ทรงยกย่องภิกษุสามเณรผู้ที่เรียนบาลี ได้มีการพระราชทานนิตยภัต ทุนหลวง สมณศักดิ์ และอื่นๆ อีกมากมาย
การศึกษาพระปริยัติธรรม เป็นหน้าที่หลักของพระภิกษุสามเณร ทุกรูป ซึ่งถ้าไม่ศึกษาแล้วก็จะไม่มีปริยัติ หลักการปฏิบัติก็จะไม่ตามมา ปฏิเวธก็จะไม่เกิด ทั้งนี้เพื่อการสืบทอดพระศาสนาและดำรงไว้ซึ่งพุทธพจน์
พิธีการแต่งตั้งเปรียญธรรม
เมื่อการศึกษาพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณรมีการสอบได้แล้วได้รับความสำเร็จแล้ว ก็ต้องมีการแต่งตั้งเปรียญธรรมให้มีคนประจักษ์รู้กันทุกคนทั่วหน้าให้คนอื่นได้ยินดีด้วย เมื่อในสมัยก่อนคนที่สอบได้วิชาภาษาบาลีพระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งและต่อมาพระมหากษัตริย์ทรงมี พระราชบัญชาให้ประธานคณะสงฆ์หรือสมเด็จพระสังฆราชเป็นผู้แต่งตั้งเปรียญธรรมแก่ผู้สอบได้ พิธีการแต่งตั้งในสมัยปัจจุบันมีดังต่อไปนี้
๑. เปรียญธรรม ๖ ประโยค , เปรียญธรรม ๙ ประโยค ทั่วประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ซึ่งเป็นผู้แทนพระองค์ทรงแต่งตั้ง
๒. ประโยค ๑-๒ และ เปรียญธรรม ๓ ประโยค ส่วนกลาง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ แม่กองบาลีสนามหลวง เป็นผู้แต่งตั้ง
๓. ประโยค ๑-๒ และ เปรียญธรรม ๓ ประโยค ส่วนภูมิภาค สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโน) และพระราชาคณะชั้นรองสมเด็จติดตามด้วยเป็นผู้แต่งตั้ง
ซึ่งการแต่งตั้งนี้ถ้าเป็นพระก็จะใช้คำว่า พระมหา นำหน้าแต่ถ้าเป็นสามเณรก็จะใช้คำว่า เปรียญ ตามหลัง สำหรับผู้ที่สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค ก็จะมีรถส่งถึงวัด
อนุโมทนาผู้สอบได้
ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ สำนักศาสนศึกษาวัดไผ่ดำ มีผู้ที่สอบได้ประโยคบาลีชั้นต่างๆดังต่อไปนี้
ชั้นประโยค ๑-๒ | ||
ที่ | ชื่อ-นามสกุล | หมายเหตุ |
๑ | สามเณรธวัช ดลเรขา | สมัยแรก |
๒ | สามเณรชัยวัฒน์ มะลิวัน | สมัยสอง |
๓ | สามเณรนเรศ เสวิกา | สมัยสอง |
๔ | สามเณรวิทยา วรรณจำปี | สมัยสอง |
๕ | สามเณรสิทธิชาติ วางเชิง | สมัยสอง |
๖ | สามเณรกิตติวัฒน์ กล้าณรงค์ | สมัยสอง |
๗ | สามเณรเอกชัย แซ่ย่าง | สมัยสอง |
๘ | สามเณรพงศธร ยะไชยศรี | สมัยสอง |
ชั้นประโยค ป.ธ. ๓ | ||
๑ | สามเณรวิษณุ ตะคุ | สมัยแรก |
๒ | สามเณรกฤษฎา พรหมมาบุญ | สมัยสอง |
๓ | สามเณรเทวัญ บัวโค | สมัยสอง |
* ในการสอบครั้งที่ ๒ นักเรียนประโยค ๑ – ๒ สอบได้วิชาไวยากรณ์ทั้งหมด พระคณาจารย์จึงคัดเลือกกลุ่มสามเณรที่มีพื้นฐานความรู้ด้านการแปลไปเข้าร่วมอบรมบาลีก่อนสอบครั้งที่ ๒ ที่วัดพิกุลทอง พระอารามหลวง ซึ่งได้รับความเมตตานุเคราะห์จาก พระเดชพระคุณ พระวิมลสุตาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอค่ายบางระจัน / เจ้าอาวาส พร้อมด้วยพระมหาเนตร ปญฺญาวุโธ เปรียญธรรม ๘ ประโยค ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ ตลอดจนพระวิทยากรด้วยดี จนปรากฏผลการสอบอยู่ในระดับดีเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย ในนามพระคณาจารย์สำนักศาสนศึกษาวัดกฤษณเวฬุพุทธาราม ขอกราบขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลเจตนาแห่งการปลูกฝังฐานความรู้ด้านภาษาบาลีให้กับสามเณรในครั้งนี้ ด้วยความซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง
โดย : สามเณรเริงชัย โนนนัน
แหล่งข้อมูล : www.oknation.net/blog/print.php?id=395875,www.palidict.com/node/77
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น